2.26.2552

การให้กำลังใจ พูดให้กำลังใจคนรัก

การให้กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่คนเราจะขาดไม่ได้ เพราะเราต่างก็มีคนที่เรารักและต้องการให้เขามีความสุข แต่ว่าบางครั้ง ความรักความห่วงใยของเรา หากมากเกินไป อาจจะทำให้เขารู้สึกรำคาญ หรือรู้สึกว่าเราเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของเขามากเกินไปก็เป็นได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่าง บางคน แค่ได้ยินคำว่า จะเป็นกำลังใจให้นะ, รักเธอนะ, จะเอาใจช่วยนะ ฯลฯ แค่นี้เขาก็ดีใจและได้กำลังใจเต็มเปี่ยมแล้ว แต่บางคน แค่นี้อาจจะไม่พอ หรือบางคน ก็ไม่ต้องการคำพูดหวานๆ แต่กลับต้องการให้ดุด่าว่ากล่าว เพื่อให้เกิดแรงต้าน ทำให้มีพลังเพิ่มขึ้น เหล่านี้ล้วนไม่มีสูตรตายตัว การให้กำลังใจ จึงเป็นศิลป์มากกว่าศาสตร์ แต่หากเรามาช่วยกันคิด แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เคยได้รับหรือเคยให้กำลังใจใครมาแล้ว และได้ผลดี ประสบการณ์อันนั้นน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่น ที่จะได้นำไปใช้ ช่วยให้สังคมไทยมีพลังมากขึ้นได้
ชีวิตคนเรามีขึ้น มีลง มีสุข มีทุกข์ คงไม่เคยมีใครที่ดำเนินชีวิตแล้วไม่พานพบกับอุปสรรค ปกติคนเรามักมองปัญหาเป็นเรื่องใหญ่กว่าตัวและเป็นวิกฤติเสมอ บางครั้งน่าจะสงบใจ ค่อยๆมองปัญหาแล้วค่อยหาทางแก้ไข บางทีเราจะพบว่า เป็นที่เราเองตีโพยตีพายเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งที่จริงๆแล้ว ไม่มีอะไรน่าหนักใจสักนิดเดียว หากว่าเมื่อเราตอบสนองและผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ ความสำเร็จ และความสุขที่ได้มันคงน่าชื่นชมยินดีและหอมหวานจริงๆ ผมเชื่อว่าด้วยความคิดความอ่าน และความรู้ที่ อ.สมชัย มีจะเป็นสิ่งสำคัญส่วนหนึ่งในการฟันฝ่าเรื่องต่างๆไป
ส่วนเรื่องการให้กำลังใจนั้น ส่วนใหญ่คงจะเป็นการพูดคุยหรือระบายกับคนสนิท ให้ได้ฟังหรือรับรู้ บางครั้งปัญหาหรือความในใจนั้น แค่ได้ระบายออกมาก็ช่วยลดความเครียดได้เยอะแล้วล่ะครับ เค้าบอกว่าการรับฟังปัญหา ก็เป็นการช่วยอย่างหนึ่งแม้ว่าอาจจะยังหาวิธีหรือคำตอบของปัญหานั้นไม่ได้ในขณะนั้น
อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด (ฟุ้งซ่าน)
อยู่สองคน(ขึ้นไป)ให้ระวังคำพูด
ขอเป็นกำลังใจให้คนหนึ่งค่ะ สู้ๆ ความสำเร็จที่ได้มายากจะทำให้เราภูมิใจมากเช่นกันค่ะ
เมื่อเราเดินทางมาไกล ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย บางครั้งเมื่อไกล้จะถึงเส้นชัยแล้ว แล้วยังเห็นขวากหนามอีก เราก็อาจจะรู้สึกท้อแท้ขึ้นมาได้เหมือนกันว่า อะไรเนี่ย ยังไม่หมดอีกหรอ เรี่ยวแรงที่ใช้ไปตลอดเส้นทาง เมื่อมาถึงจุดนี้ มันเหลือเพียงน้อยนิด แค่เศษเสี้ยว ซึ่งอาจจะไม่พอที่จะทำให้ผ่านขวากหนามสุดท้ายไปได้ ทั้งๆที่ขวากหนามสุดท้าย อาจจะเล็กน้อยกว่าที่ผ่านๆมาหลายเท่าตัว เวลานี้เป็นเวลาที่คนเราต้องการกำลังใจมากที่สุด เป็นช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุด เพราะหากหมดแรงลงตรงนี้ ก็จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก นั่นคือสิ่งที่ผมสัมผัสได้ตอนนี้
สำหรับประสบการณ์ส่วนตัว ตอนเรียนที่เมืองไทย ก็มีคุณพ่อคุณแม่เป็นกำลังใจค่ะ ท่านไม่ได้พูดหรือทำอะไรเป็นพิเศษ เพื่อให้กำลังใจนะค่ะ แค่ทำเหมือนว่าเรื่องที่เรากำลังท้อแท้เป็นแค่ปัญหาเล็กๆ ปัญหาหนึ่งเท่านั้น (อันนี้พูดถึงเรื่องปัญหา เรื่องเรียนนะค่ะ) เราก็คล้อยตามเออ มันไม่ใช่ปัญหาโลกแตกซักกะหน่อย ตอนนี้มาอยู่ต่างเมือง ก็มีเพื่อนๆ คอยให้กำลังใจค่ะ ส่วนมากจะเป็นแบบ ต่างคนต่างมาบ่นปัญหาให้กันละกันฟัง ก็จะรู้สึกดีขึ้นค่ะ อย่างน้อยก็ไม่ได้มีแค่เราที่มีปัญหา (นิสัยไม่ดีค่ะ อยากให้เพื่อนมีปัญหาเป็นเพื่อนเรา อิอิ ) แต่จะไม่ชอบให้ใครมาทำท่าสงสารค่ะ ไม่อยากเป็นคนน่าสงสาร ส่วนตัวชอบวิธีของเพื่อนคนหนึ่งอ่ะคะ เขาจะบอกประมาณ เหนื่อยก็พักซะก่อน หายเหนื่อยแล้วค่อยลุยต่อ หรือประมาณ กินอิ่มนอนหลับก่อน แล้วค่อยลุย อะไรประมาณนี้ เพราะปกติเวลาท้อแท้ เซ็งๆ เครียดๆ งานเยอะ จะกินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับ สมองเลยยิ่งตัน พาลให้คิดอะไรไม่ออก วิธีกองทัพเดินด้วยท้องนี่ใช้ได้ผล เสมอเลยค่ะ
ตัวอย่างการพูดให้กำลังใจ เช่น
ไม่เป็นไรนะ คนเราก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้นแหละ
เชื่อว่าคุณต้องผ่านมันไปได้น่ะ
อย่างน้อยเมื่อเราผ่านมันไปได้ เราจะได้รู้ว่าเราเข้มแข็งแค่ไหน
ไม่เป็นไรนะ เราผ่านมันได้อยู่แล้ว อย่าคิดมาก มีเราอยู่ทั้งคน
รักที่รักนะคะ เราจะเป็นกำลังใจให้กันตลอดไป

อย่าคิดมากนะ มีอะไรเล่าให้ฟังได้น่ะเรายินดีรับฟังเสมอ
ถ้าไม่มีเพื่อนไม่เป็นไร เรายังอยู่เป็นเพื่อน

คิดถึงคนอื่นที่รับความทุกข์มากกว่าคุณซิ ให้คิดว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีอยู่เสมอ

ถามเค้าว่าเป็นงั้ยบ้าง เกิดอะไรขึ้น มีอะไรไม่สบายใจก็เราให้ฟังได้เสมอนะ ฉันยินดีรับฟัง และ พร้อมที่จะเข้าใจคุณเสมอ
บอกเค้าว่า วันนี้คุณคงเครียดกับงานใช่มั้ย ถ้างั้นฉันคิดว่าคุณน่าจะ ออกไปทำอะไรที่ชอบ เช่น ไปเที่ยวกับเพื่อน ฟังเพลง สูบบุหรี่ กินกาแฟ อาบน้ำ หรือ อะไรก็ได้ จนกว่าจะสบายใจ แล้วค่อยกับมาทำงานที่เค้าเครียดต่อดีกว่ามั้ย

...เวลาที่ใครคนใดคนหนึ่งตัดสินใจไปใช้ชีวิตคู่อยู่กับใครสักคนบนความรักความเข้าใจที่ไม่มีอะไรแอบแฝงนั้น มันเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ เพราะไม่ใช่เพียงแค่คนสองคนมาอยู่ด้วยกันเพื่อสืบเผ่าพันธุ์มนุษยชาติให้อยู่ยงคงกระพันต่อไปอีกยาวนานเท่านั้น แต่มันเป็นศิลปชั้นสูงของการใช้ชีวิต... ชีวิตคนเรานั้นแบ่งสั้น ๆ ง่าย ๆ ของการใช้ชีวิตได้สองส่วนคือ …. ส่วนที่อยู่นอกบ้านกับส่วนที่อยู่ในบ้าน ส่วนที่อยู่นอกบ้าน คือ การศึกษาเล่าเรียน การทำงาน การสมาคมกับกลุ่มคนรูปแบบต่าง ๆ ในส่วนนี้เมื่อมีปัญหาเราอาจจะผละหนีปัญหา หรือเข้าไปแก้ไขปัญหา สำหรับส่วนที่อยู่ในบ้าน คือ การใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่พี่น้อง หรือใช้ชีวิตคู่อยู่กับใครสักคน การใช้ชีวิตในส่วนนี้เราจะผละหนีปัญหาไม่ได้ มีแต่ต้องคิดแก้ไขปัญหา ยิ่งการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันยิ่งแล้วใหญ่
ถ้าการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันแล้วมีปัญหา ทั้งปัญหาจากการใช้ชีวิตคู่หรือปัญหาชีวิตทั่วๆ ไป ยิ่งต้องคิดแก้ไข เพราะเราสองคนได้ตัดสินใจมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วด้วยความสมัครใจ เมื่อมีปัญหาอะไรจึงต้องคิดแก้ไข แต่ก่อนจะแก้ไขหรือหาวิธีการในการแก้ไข ควรคิดถึงการให้กำลังใจในการฟันฝ่าอุปสรรคไปสู่ชัยชนะ ในชีวิตจริงของชีวิตคู่นั้น เมื่อใครคนใดคนหนึ่งมีปัญหาจากการทำงาน ปัญหาจากแวดวงในสังคมที่เราไปสมาคมด้วย เรามักนำมาเล่าให้คนที่เป็นคู่ของเราฟังเพื่อปรับทุกข์และช่วยกันหาทางแก้ไข เช่นสามีทำธุรกิจประเภทหนึ่งประสบปัญหา กิจการไม่เจริญก้าวหน้าตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ สามีก็มักจะนำปัญหามาฟังแล้วก็คงปรึกษาหารือแลกเปลี่ยนความคิดกัน ช่วงจังหวะเวลานี้ เมื่อมีปัญหาเข้ามายังครอบครัวให้ขบคิด คือช่วงเวลาสำคัญที่ภรรยาควรให้ข้อคิดที่เสริมกำลังใจ เพื่อให้สามีเห็นหนทางแห่งการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่เอ่ยวาจาให้ความเห็นที่เป็นเชิงลบจนแทบหมดกำลังใจ
เช่นสามีอาจปรึกษาว่าเราควรแก้ไขปัญหาวิธีนี้จะดีหรือไม่
ภรรยาที่ให้ความเห็นหรือข้อคิดในเชิงลบมักจะพูดว่า
.... ฉันคิดว่ามันเป็นไปได้ แต่ฉันว่ามันคงยากมากนะ
ความเห็นทำนองนี้จะมีส่วนทำลายขวัญกำลังใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้เราอาจจะคิดว่ามันจะยากมากจริง ๆ แต่ก็ยังไม่ควรนำเสนอออกมา เพราะช่วงเวลาแรก ๆ ของการปรึกษาปัญหาอะไรก็ตามคือ ช่วงเวลาของการเสริมสร้างกำลังใจ เมื่อคนเรามีข้อคิดดี ๆ หรือคำพูดดี ๆ ที่เสริมสร้างกำลังใจแล้ว โอกาสที่ปัญญาจะคิดแก้ไขให้สำเร็จก็จะตามมา
ภรรยาควรนำเสนอข้อคิด ความเห็นในเชิงบวกด้วยคำพูดที่ว่า _ _ _ _ ถึงแม้มันจะยาก แต่ฉันคิดว่ามันเป็นไปได้นะ คำพูดแบบนี้ของภรรยาจะนำมาซึ่งกำลังใจให้สามีอย่างล้นเหลือ จากกำลังใจที่ได้รับเพียงประโยคสั้น ๆ ที่หลุดออกจากปาก ถึงจะมีปัญหาลำบากยากเข็ญขนาดไหนให้แก้ไข สามีก็จะมีพลังใจฟันฝ่าอุปสรรคได้ไม่ยาก การให้กำลังใจสามารถสื่อถึงกันได้หลายรูปแบบ มีทั้งสื่อด้วยสายตา สื่อด้วยการสัมผัส แต่การสื่อที่จัดว่าเป็นสุดยอดของการสร้างเสริมกำลังให้สู้ต่อไปคือ
การสื่อด้วยวาจา คำพูดที่หรูหรายาวเป็นวา แต่หาสาระที่จะเสริมสร้างกำลังใจไม่ได้ ก็ไม่มีคุณค่าพอที่จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ คำพูดสั้น ๆ เพียงประโยคเดียวที่กินใจ มีส่วนช่วยทำให้เกิดกำลังใจ ฟันฝ่าต่อไปสู่ชัยชนะได้ไม่ยาก จึงขอฝากข้อคิดทิ้งท้ายไว้ท้าทายความคิดของทุกชีวิตคู่เพื่อต่อสู้ปัญหาที่จะถาโถมเข้ามาด้วยข้อความที่ว่า ผู้แพ้ มักเห็นปัญหาในทุกๆ คำตอบ ผู้ชนะ มักเห็นคำตอบในทุกปัญหา !

ไม่มีความคิดเห็น: