ช่วงนี้มัวมุทำงานหนักจนทั้งหวานใจและครอบครัวต่างพร้อมใจกันทำตัวห่างเหิน ไม่ยอมคบหาสมาคมด้วย เราจึงต้องเอาใจทั้งสองฝ่ายด้วยการลาพักร้อน แล้วจัดโปรแกรมเที่ยว 1 วันสำหรับครอบครัวของเราทั้งสอง เพื่อหนทางแห่งรักที่ยั่งยืนและยาวนาน
Morning Glory : RainTree Cafe (Plaza Athenee Bangkok)
เริ่มเช้าวันใหม่ที่สดใส (เพราะไม่ต้องทำงานนี่) ในบรรยากาศสุดแสนอบอุ่น เมื่อตื่นขึ้นมาเจอคุณพ่อ คุณแม่ ของเราทั้งสองอยู่กันพร้อมหน้าแบบว่า..
.รอให้พาไปเที่ยวด้วยใบหน้าแช่มชื่น จึงต้องเริ่มต้นโปรแกรมที่วางไว้ทันทีด้วยการเลือกบุฟเฟ่ต์มื้อเช้าที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลาย ณ RainTree ชั้น1โรงแรมพลาซ่าแอทธินี ที่ RainTree มีบรรยากาศสบาย ๆ ตัวห้องโล่งกว้าง เต็มไปด้วยกระจกใสลวดลายงดงาม มีน้ำตกจำลองเล็กๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นยามเช้า ทั้งร้านจะคุมโทนด้วยสีเขียวของต้นไม้และสีน้ำตาลของโต๊ะเก้าอี้ ตัดกับสีแดงของดอกไม้ที่ถูกนำมาประดับไว้โดยรอบ
บุฟเฟ่ต์มื้อเช้าของ RainTree มีหลากหลายตั้งแต่อาหารฝรั่งอย่างไส้กรอก แฮม ขนมปัง สลัดผักกับน้ำสลัดหลากชนิดแกล้มกับฺBirchermuesli ที่เป็นข้าวโอ๊ตผสมนมกับน้ำเชื่อมพร้อมใส่คอนเฟล็กซ์กับผลไม้แห้ง อาหารไทยมีข้าวผัดหอมหวลกับเส้นใหญ่ผัดซี่อิ๊วหอมนุ่ม หรือจะเป็นอาหารเบาๆ อย่างข้าวต้มหรือโจ๊ก อาหารจีน อย่างติ่มซำสุดอร่อย อาหารญี่ปุ่นอย่างปลาแซลมอนหรือข้าวห่อสาหร่าย ตามด้วยผลไม้หลากรสแบบที่เป็นลูก ๆ กับอย่างที่ตัดไว้ทั้งลิ้นจี่ ลำไยและลูกพลับน้ำเชื่อม เป็นอาหารมื้อเช้าที่แสนอิ่มอร่อยและมีความสุข จนถึงเวลาปิดบุฟเฟ่ต์คือ 10.30 น. จึงเดินทางไปช้อปปิ้งกันต่อที่เอ็มโพเรียม
RainTree Cafe ชั้น 1 โรงแรมพลาซ่า แอทธินี เปิดบริการทุกวัน บุฟเฟ่ต์มื้อเช้า 650++ เวลา 06.00-10.30 น. บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน 750++ เวลา 12.00-14.30 น. บุฟเฟ่ต์มื้อเย็น1,200++ เวลา 18.00-22.00 น. ซันเดย์ บรั้นซ์ 1,680++ เวลา 11.30-15.00 น.
โทร. 0-2650-8800 ต่อ 4346
Afternoon Relaxation : Bitter Brown
กระหน่ำช้อปปิ้งซัมเมอร์เซลล์กันซะขนาดนั้น ทำเอาสมาชิกทุกคนดูเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเป็นอย่างมาก จนอาหารเช้าที่รับประทานก็หมดไปพร้อมๆ กับพลังการช้อปเรียบร้อย บ่ายแก่ๆ ที่แสนอบอุ่นของวันนี้ เราจึงคัดสรรร้าน Bitter Brown ย่านอโศก ที่สามารถนั่งพักผ่อน จิบกาแฟหอมกรุ่น ในบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยสวนรื่นรมย์โดยรอบ
ที่นี่เป็นร้านกาแฟโฮมเมด ตกแต่งสไตล์ Eclectic East ผสมผสานการตกแต่งแบบตะวันออกหลากหลายสไตล์ คุมด้วยโทนสีน้ำตาลอันเป็นสัญลักษณ์ของกาแฟ ในร้านมีตู้ปลาเต็มไปด้วยปลาสีสันสวยงามตั้งอยู่บนเคาเตอร์บาร์ ซึ่งกั้นอยู่กลางร้านระหว่างที่นั่งสองด้าน ด้านหนึ่งเป็นโต๊ะเก้าอี้โซฟามีให้เลือกนั่งได้ในหลายอิริยาบถ ส่วนอีกด้านเป็นโต๊ะเก้าอี้ไม้สีน้ำตาล บนผนังด้านข้างประดับประดาด้วยภาพวาดสีสด
คุณพ่อและคุณแม่ของเราทั้งคู่เลือกนั่งจิบกาแฟรสนุ่มสไตล์ Bitter Brown ที่มุมโซฟาริมกระจกใส สามารถมองออกไปยังทัศนียภาพด้านนอกได้ หลังจากนั้น จึงตบท้ายด้วยเมนูอิตาเลี่ยนยอดนิยมอย่าง Baked Rigatoni with Ham & Mazzarella นุ่มนิ่มพาสต้าเส้นใหญ่ผัดกับซอสมะเขือเทศ ราดด้วยซอสขาว Bashamail และแฮม ตบหน้าด้วย Mazzarella Cheese แสนหนืดและมัน Pamasan Cheese ซึ่งเค็มและหอม ได้มิติของความเปรี้ยว มัน เค็มที่ลงตัว จนเผลออิ่มท้องกันไปคนละหลายจาน
สำหรับกาแฟที่นี่มีทั้งร้อนและเย็น ด้วยรสชาติของร้านโดยเฉพาะ แต่ถ้าไม่ชอบกาแฟก็มีเมนูอื่นอย่าง White Choc Oreo Frappe ช๊อคโกแลตปั่นใส่โอรีโอมาให้ลอง
Bitter Brown อโศกคอร์ท สุขุมวิท 21 เปิดให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.00 - 21.00 น. โทร. 0-2261-6535
Evening Sea Beach : Hua Hin
เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียจริงๆ หลังจากพักผ่อน พร้อมกับการนั่งรับประทานอาหารอย่างชิวๆ ในร้าน Bitter Brown จนเสร็จใกล้เย็นย่ำเข้าไปทุกที พวกเราจึงเดินทางต่อไปหาของอร่อยเพื่อดินเนอร์ร่วมกัน คุณแม่(เป็นใหญ่)ทั้งสอง(อีกแล้ว)ที่ร้องขอดินเนอร์ท่ามกลางบรรยากาศของทะเล หาดทราย สายลม เราจึงพาทุกคนมาทานข้าวที่ "หัวหิน"
แม้ว่าจะไม่ใช่ "หัวหิน" จริงๆ ก็ตาม เพราะเรามีเวลาน้อยเกินไปที่จะขับรถพาคุณแม่ไปได้ แต่ที่นี่คือร้าน "หัวหิน" อยู่ในซอยลาดพร้าว 71 สามารถสัมผัสถึงความเป็นบรรยากาศทะเลได้ราวกับไปทะเลจริงๆ
ร้าน "หัวหิน" ตกแต่งเป็นบ้านสีขาวริมทะเลในยุค 70 แสนคลาสสิค มีบริเวณให้รับประทานอาหารทั้งด้านนอกและด้านใน ด้านนอกเปิดโล่งกว้าง โต๊ะเก้าอี้เป็นสีขาวล้วน มีสระน้ำขนาดย่อมตั้งอยู่ตรงกลาง รอบข้างมีต้นมะพร้าวที่สูงชะลูดและต้นสนสีเขียวที่ปลิวไสวไปตามแรงลมอย่างเอื่อยๆ อยู่รายรอบ
ภายในตัวบ้านคุมด้วยโทนสีน้ำตาลทั้งหมด รายรอบด้วยของประดับประดาที่เก๋ไก๋ในแบบคลาสสิคหน่อยทั้งโคมไฟ เครื่องเสียง โทรศัพท์หรือแม้กระทั่งภาพถ่ายประดับบนผนัง ก็เป็นภาพของหัวหินในบรรยากาศเก่าๆ เฟอร์นิเจอร์ของที่นี่ปรับปรุงขึ้นมาใหม่ทั้งหมดให้เข้าคอนเซ็ปต์ความเป็นทะเลยุค 70
ช่วงเกือบสองทุ่มแล้ว ฟ้ารอบข้างบริเวณนั้นเริ่มมืดลง ในขณะที่ไฟประดับประดารอบๆ ร้านค่อยๆ สว่างขึ้น เราเลือกนั่งในมุมหนึ่งข้างสระน้ำ มีเสียงแซกโซโฟนจากนักดนตรีมืออาชีพเล่นคลออยู่ข้างๆ แล้วสั่งอาหารมาหลายอย่าง ทั้งห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว และพล่าปลาแซลมอนที่คลุกเคล้ารสมะนาวผสมตะไคร้กับพริกได้อย่างลงตัว พร้อมเครื่องดื่มอย่างน้ำส้มคั้นสีส้มสดและค็อกเทลสีแสบสัน เป็นดินเนอร์ริมทะเลที่เก๋ไก๋และประทับใจคุณแม่ทั้งสองมาก
เรานั่งรับประทานอาหารกันอย่างเพลิดเพลิน จนสี่ทุ่มก็ถึงเวลากลับบ้านเสียที เวลาหนึ่งวันของการเชื่อมสัมพันธ์สองครอบครัวก็ต้องจบลงจนได้ แต่งานนี้ลูกๆ ก็ได้ใจ(สี่ดวง)ของคุณพ่อและแม่ไปเต็มๆ แถมท่านยังที่ติดอกติดใจ จนกระทั่งมีการขอให้พักร้อนคราวหน้า(แบบเร็วๆ หน่อย) เพื่อมาเที่ยวอย่างนี้อีก
หัวหิน31 ลาดพร้าว71 เปิดบริการทุกวันเวลา17.00 - 24.00 น.มีวงดนตรีเล่น เวลา 20.00- 21.00 น.และ 22.00-24.00 น. โทร. 0-2514-2422
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น