
ข้อมูลร้านอาหารอร่อยๆในเยาวราช
ก๋วยจั๊บน้ำใส ของเฮียเล็ก
ตั้งอยู่ตรงปากทางเข้าตลาดเก่าเยาวราชดู ร้านนี้ก๋วยจั๊บเขารสชาติถึงใจจริง ๆ หาไม่ยากครับ ร้านนี้มีลักษณะเป็นรถเข็นคันใหญ่ จะตั้งอยู่ตรงปากทางเข้าตลาดเก่าพอดิบพอดี พอคุณไปถึงเห็นคนมุงอยู่เยอะ ๆ ด้านหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น นั่นแหละครับใช่เลย เข้าไปสั่งรับประทานได้รับรองไม่ผิดหวัง จะเริ่มขายตอนกลางคืน ประมาณ 2 ทุ่ม ก๋วยจั๊บน้ำใส ของเฮียเล็ก มีความพิเศษที่รสชาติเข้มข้น หนักพริกไทยดำ กินแล้วเผ็ดนุ่มลึกถึงใจ กลิ่นหอมหวนชวนกิน เครื่องในหมูที่เขาต้มมาใส่ลงในก๋วยจั๊บ ก็สะอาดสะอ้านไม่มีกลิ่นคาว มาขัดความรู้สึกเวลาเคี้ยว โดยเฉพาะกระเพาะหมู มีนุ่มนอกนุ่มใน ไม่กระด้างสากปาก และทำได้พิเศษจริง ๆ คือหมูกรอบที่กรอบได้ทนนาน
ร้าน สุกี้โบราณ ไล่เฮง
สุกี้ของร้านนี้ ยังอนุรักษ์ของเก่าแก่ไว้เต็มรูปแบบ คือใช้ เตาถ่าน ถ่านที่นำมาติดไฟ ก็เป็น ถ่านไม้โกงกางอย่างดี ทำให้ไฟแรง ไม่มีควัน ทำให้รำคาญเวลานั่งรับประทาน เนื้อวัวร้านนี้หมักได้รสชาติแถมนุ่มอร่อย นอกจากสุกี้สูตรโบราณรสเยี่ยมแล้ว ร้านนี้ยังมีอาหารอร่อยอีกหลายอย่าง ล้วนแล้วแต่น่ากินระดับห้าดาวทั้งนั้น
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา เล่าซา ทรงวาด
ร้านนี้จะตั้งขายตอนกลางคืน เริ่มขายเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม ขายถึงสี่ทุ่มก็หมด ร้านนี้หาง่ายครับ พอขับรถมาถึง ท่าน้ำราชวงศ์ เลี้ยวเข้า ถนนทรงวาด ขับผ่านห้องเย็นทรงวาด ก็พยายามหาที่จอดรถได้เลย ร้านจะอยู่เลยห้องเย็นทรงวาดไปประมาณ 100 เมตร ตั้งอยู่ในซอกตึกฝั่งขวามือ เป็นรถเข็นมีป้ายชื่อร้านติดอยู่เห็นชัดเจน และมีคนมุงกันเต็ม ใครมากินร้านนี้ต้องคอยตามคิวนะครับ นานหน่อยแต่อร่อยคุ้มค่า ชื่อร้าน"เล่าซา" ตั้งตามชื่อ ข้าวต้มกุ๊ยโบราณ ( เล่าตั๊งเจ้าเก่า )
ข้าวต้มกุ๊ย
ข้าวต้มกุ๊ยของย่านนี้ ยังคงความขลังของบรรยากาศดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ไม้สักเก่าๆ โต๊ะกลมหินอ่อน ตู้ใส่กับข้าว รวมทั้งโหงวเฮ้งของ เถ้าชิ้ว ( เถ้าชิ้ว หรือ มือหนึ่ง - หมายถึงพ่อครัว หรือคนจัดอาหาร ) ที่พอมองปุ๊บ ต้องรู้สึกได้ทันทีว่า มีฝีมือเข้าขั้นในการปรุงอาหารร้านนี้แปลกครับ ไม่มีป้ายติดหน้าร้านร้านนี้หาไม่ยากครับ หากเริ่มต้นที่ประตูวัฒนธรรม เข้าสู่ถนนเยาวราช ขับรถผ่านหน้า โรงพยาบาล เทียนฟ้า ผ่านหน้า โรงแรมเอ็มไพร์ ให้ชิดซ้ายไว้ ข้างหน้าจะเห็นสี่แยกไฟแดง หรือที่เรียกกันว่า"แยกเจ็ดชั้น" หรือ "แยกเฉลิมบุรี" ให้ขับรถเลย สี่แยกนี้ไปประมาณ 10 เมตร ซ้ายมือจะเห็นตรอกคนเดิน ให้หาที่จอดรถ แล้วเดินเข้าตรอกนี้แหละครับ เดินไปจนสุดตรอกประมาณ 20 กว่าเมตร จะเห็นคนนั่งกินเรียงรายเต็มไปหมด หรือหากใครยังหาที่จอดรถไม่ได้ ให้ขับรถมาเรื่อย ๆ ผ่านตรอกนี้ไปประมาณ 20 เมตร จะพบแยกเมืองทอง ซึ่งรถเลี้ยวเข้าไปไม่ได้ ให้ขับเลยมาเข้าซอยถัดไป คือ ซอย เทียนกัวเทียน หรือ ซอย เยาวพาณิชย์ พอเข้า ซอยมาแล้วให้ขับเลี้ยวซ้ายเข้า ถนน พาดสาย ขับตรงมาเรื่อย ๆ ก็จะเจอร้าน พอเดินเข้าไปถึงหน้าร้านเท่านั้นแหละครับ จะเห็นกับข้าวตั้งอยู่เรียงรายไม่ต่ำกว่า 40 ชนิด แต่ละชนิดล้วน แล้วแต่อร่อยทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นผัดใบปอ โรยกระเทียมเจียวรสกลมกล่อม ไม่เค็มหรือขมจนเกินไป ต้มจับฉ่าย คากิต้มเปื่อย ผัดปลาฉลาม ผัดเป็ดสับ ผัดกระเพาะปลา หอยเค็ม ปลานึ่ง ปลาทอด ผัดผักต่าง ๆ เกือบทุกชนิด รวมทั้งเป็ดพะโล้ หมูต้ม สรุปแล้วมีอาหารเอร็ดอร่อยหลายอย่างครับ แต่ที่ "โกตี่" บอกว่าเด็ดสุดของร้านนี้ไปแล้วต้องสั่งคือ หมูเค็มทอด เพราะเวลาทานกับข้าวต้มร้อน ๆ อร่อยอย่างบอกใคร ร้านนี้มีแต่ข้าวต้มนะครับ ไม่มีข้าวสวย เพราะเจ้าของร้านยังคงความดั้งเดิม ของร้านข้าวต้มแต่โบราณไว้ที่มีขายเพียงข้าวต้ม เปิดขาย 2 รอบครับ รอบเช้าหนุ่มจีนผิวขาวหน้าตี๋ เป็นคนตักกับข้าวหรือกับแกล้ม ส่วนรอบบ่าย เจ๊ผู้หญิงเข้าเวรตักขายไปจนถึงกลางคืนประมาณ 4 ทุ่ม
ปูเผาทรงเครื่อง อื้อ (ซาลี้)
ร้านนี้มองผ่านๆ หรือเดินผ่าน รับรองคนไม่รู้จักไม่แวะเข้าไปนั่งกิน" เพราะ หน้าร้านมองแล้วไม่สะดุดตา เป็นรถเข็นโทรม ๆ จะว่าหายากก็ไม่ยากนัก เพราะอยู่ตรงปากทางเข้าตลาดเก่าเยาวราช รถเข็นตั้งอยู่ตรงหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่นพอดิบพอดีเป๊ะ ร้านนี้ไม่มีชื่อร้าน บรรยากาศหน้าร้านดูแออัดยัดเหยียดหน่อยเหมือนบรรยากาศทั่ว ๆ ไปของเยาวราช แต่ถ้าท่านได้มีโอกาสนั่งทานอาหารแล้วละก็รับรองไม่ผิดหวัง เขามีอาหารทะเลเผาทุกชนิดบริการครับ ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง ปู ปลา ฯลฯ ทุกอย่างก็อร่อยด้วยกันทั้งนั้น สั่งมาทานแล้วต้องยกนิ้วให้ แต่ไฮไลท์ หรือสุดยอดของร้านนี้ "โกตี่" บอกว่าอยู่ที่ปูเผาร้านนี้อาหารทะเลทุกอย่างจะเน้นสดใหม่ ราคาปูนั้นจะขึ้นอยู่กับ ขนาด น้ำหนัก และคุณภาพปูเผาของร้านนี้ นอกจากจะมีเนื้อสดหวานด้วยการคัดสรรมาอย่างดีแล้ว ยังพิเศษและแตกต่างจากปูเผาทั่วไปตรงที่จะหอมไปด้วยกลิ่นกระเทียมโขลกผสมรากผักชี พริกไทย ผสานไปกับรสชาติของกระเทียมดอง แล้วมีกลิ่นเนยสดร่วมแจม การทำให้สุกนั้นเขาจะนำปูไปอบในหม้อดินคลุกเคล้าจนเครื่องเทศซึมเข้าไปอยู่ในเนื้อปู หลังจากนั้นจึงนำเนื้อปูมาห่อกระดาษฟรอยแล้วเผา พอแกะกระดาษฟรอยออกมาเท่านั้นแหละ กลิ่นหอมตลบอบอวลน่ากินอย่าบอกใคร โดยเฉพาะคนที่ชอบรสชาติของกระเทียม รับรองสะใจนอกจากปูเผาแล้วเขายังที่เด็ดอีกหลายอย่าง อาทิ หอยแมงภู่อบหม้อดิน ซึ่งต่างจากร้านอื่นตรงที่เขาจะนำหอยแมงภู่มาอบกระเทียม ผสมรากผักชี พริกไทย และเนย ไม่อบหัวตะไคร้ ใบโหระพาที่หากินได้ง่ายทั่วไป นอกจากนั้นก็มีปลากระพงนึ่งซีอิ้ว มีกุ้งอบวุ้นเส้น ฯลฯ ร้านนี้สามารถโทรสั่งจองอาหารล่วงหน้าแล้วไปทาน หรือเอากลับมาทานที่บ้านก็ได้นะครับ เบอร์โทรศัพท์ของเขาคือ 01-4023106 หรือที่บ้าน 224-2373
ขนมไข่ฮ่องกง
ร้านที่ว่าชื่อ ฮ่องกงติ๋มซำ อยู่ในตลาด เล่งบ้วยเอี้ย เป็นตลาดอาหารสดแห้ง ที่เชื่อมระหว่าง ถนน เยาวราช กับ ถนน เจริญกรุง หมูกระสุนคุ้นกับตลาดแห่งนี้ ตั้งแต่เด็กๆ เพราะหมูกระสุนเดินเข้าออกเป็นประจำตามแม่ซื้อของต้อยๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลไหว้เจ้า ทั้งหลาย แออัดสุดบรรยาย หากถ้าเริ่มเดินมาจาก ถนนเยาวราช ก็จะผ่าน ร้าน ง่วนสุน ร้านขายเครื่องเทศเจ้าตลาดในบ้านเรา จนใกล้ๆ จะออกไปถึง ถนน เจริญกรุง ผู้คนออกันแน่นร้าน ร้านห้องแถวเดียวที่ใช้เนื้อที่ให้เป็นประโยชน์ที่สุด ร้านฮ่องกงติ๋มซำนี่แหละ ที่ขายขนมไข่สุดอร่อย ราคาประหยัด ยิ่งถ้าได้ทานร้อนๆ ด้วยแล้ว รสหวานของคัสตาร์ดสีเหลืองนวล กลมกล่อมดีทีเดียว ขนมไข่ ของที่ร้านนี้ เขาแบ่งขาย 6 ชิ้น ในราคา 60 บาท ตกชิ้นละ 10 บาท แต่ไม่รู้ว่าเขาจะแบ่งขายเป็นชิ้นๆ เลยไหม เพราะส่วนใหญ่เวลาซื้อที่ก็ซื้อเป็นแพคโฟมมาเลย ส่วนติ่มซำอื่นๆ ก็มีเหมือนๆ กันไป แต่ราคาบางชิ้นก็แพงน่าดู อีกหนึ่งขนมหวานจากต่างแดน กับรสชาติความอร่อยติดปากคนไทย
ข้าวต้มปลา 200
หนึ่งร้านแนะนำที่คุณซื้อหาความอร่อยด้วยราคาที่ถูกกว่า ข้าวต้มปลา 200 ร้านนี้เขาขายชามละ 200 บาท เป็นข้าวต้มปลากะพง กับ ปลาจาระเม็ดข้าวต้มร้านนี้เขาพิเศษครับ ไม่ใช่ว่าจะใช้ปลาขนาดไหนเกรดไหนก็ได้มาทำ ข้าวต้มร้านนี้เขาคัดปลากะพง ขนาดต้อง 20 กิโลฯกว่าขึ้นไปมาทำ ปลาจาระเม็ดก็เหมือนกัน ไม่ใช่เอาปลาขนาดเท่าฝ่ามือเดียวมาทำ ถ้าปลาจาระเม็ดของร้านนี้ขนาดต้อง 2 ฝ่ามือรวมกันขึ้นไปอ้อ...แล้วอย่างเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ ว่าข้าวต้มหนึ่งชามใส่ปลาทั้งตัว เขาใช้เนื้อปลาแค่ไม่ถึง ครึ่งตัวก็ล้นชามแล้ว บางคนอาจจะคิดว่ายังไงก็ไม่น่าแพงอย่างนี้ เพราะเคยไปซื้อปลากะพง ตามตลาด เขาขายกิโลฯละ 100 บาทมีถมเถไป แต่ "โกตี่" ขอบอกก่อนว่านั่นเป็น ปลากะพงน้ำจืด น้ำหนัก แค่ตัวละ 8 ขีดถึง 1 กิโลฯ เนื้อจะเหม็นกลิ่นดินกลิ่นโคลน แต่เนื้อปลากะพงของร้านนี้เขาเอามาจากปลาใหญ่ ดังนั้นจึงต้องเป็นปลาทะเลน้ำลึก สนนราคา กิโลฯละไม่ต่ำกว่า 280 บาท อ่านไปอ่านมา หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเขาต้องเลือกเอาเฉพาะ ปลาตัวโต ๆ มาทำ แถมตั้งราคาเสียสูงลิ่ว แบบนี้จะมีคนมากินหรือ? ไม่ต้องสงสัย...เขาเปิดขายประมาณหัวค่ำ ขายไม่กี่ชั่วโมงก็ปิดร้านแล้ว เพราะคนแน่นของหมด มีแต่ลูกค้าขาประจำมานั่งกิน แถมขาจรหน้าใหม่ก็เพิ่มขึ้นทุกวัน ส่วนมากก็มากันปากต่อปากจากลูกค้า ขาประจำนั่นแหละแล้วที่ใช้ ปลาตัวใหญ่นั่น เขาต้องการให้เนื้อปลาเมื่อสุกเต็มที่แล้วเนื้อไม่เละตุ้มเป๊ะ แต่ยังเป็นเนื้อปลาก้อน ๆ เหมือนเดิม แล้วที่อร่อยคือหนังปลาที่ติดกับเนื้อ เนื่องจากเป็นปลาตัวใหญ่หนังจะหนา เวลาเคี้ยวจึง กรุบ ๆ เพิ่มรสชาติความอร่อยให้มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญไม่เหม็นคาว นอกจากเนื้อปลาแล้วเขาจะใส่ กุ้งแห้ง บะเต็ง พร้อมกับเต้าหู้แผ่นทอดโรยหน้า ซึ่งนี่เป็นสูตรโบราณมาก เดี๋ยวนี้แทบจะหากินที่ไหน ไม่ได้อีกแล้ว ข้ามต้มร้านอื่น ๆ ถึงแม้จะมีแผ่นเต้าหู้แห้งทอดโรยหน้าด้วย แต่ก็โรยน้อยมาก ทานแล้ว ไม่จุใจ จุดสำคัญอีกอย่างหนึ่งของข้าวต้มปลา ก็คือ น้ำต้องใส แล้วหอมกลิ่นปลา ซึ่งเป็นเคล็ดที่ร้านข้าวต้มปลา น้อยรายนักจะทำได้ ร้านนี้เข้าได้หลายทาง เอาง่าย ๆ ตามถนนเยาวราช ผ่านแยกเฉลิมบุรี ตรงมาถึง ตลาดเก่า พยายามชิดขวาไว้ พอเห็นแยกไฟแดงข้างหน้าคือแยกราชวงศ์ หรือสี่แยกแมวน้ำ หรือ แยกใต้ฟ้าเก่า ให้เลยไปแล้วเลี้ยวขวามือซอยแรก เลี้ยวเข้าไปประมาณ 20 กว่าเมตรร้านจะอยู่ซ้ายมือสังเกตุหน้าร้านจะเห็นตู้กับข้าวขอบไม้สักเก่าๆ ใบเบ้อเร่อเปิดโล่งไม่มีกระจกตั้งอยู่ ในตู้ก็จะมีชั้นวางของชั้นวางเต้าหู้ทอด กุ้งแห้ง ฯลฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น